“ลังกาน้อย ลังกาหลวง ” เป็น 1 ในชื่อเส้นทางเดินป่าที่เหล่านักเดินป่ามักจะลิสต์ไว้เป็น เส้นทางเดินป่าหน้าหนาวที่ต้องไป ด้วยเส้นทางเดินเท้าสุดเร้าใจที่ขึ้นชื่อว่าโหดหินระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ในกิติศัพท์ที่ว่า “โหด” ก็เหมือนราวกับจะเป็นแรงดึงดูดของแม่เหล็ก ที่ดึงดูดให้เหล่านักเดินป่าต้องเอาสองเท้าไปเยือนยอดเขาแห่งนี้ให้ได้สักครั้ง
ที่นี่เป็นเส้นทางเดินป่าที่มีอาณาเขตคาบเกี่ยวพื้นที่ระหว่างรอยต่อ 3 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่และลำปาง ในวันที่ท้องฟ้าเปิดอากาศดี ๆ เราจะเห็นดอยอินทนนท์ยาวไปจนถึงเชียงดาวเลยทีเดียวล่ะ
ลังกาน้อย ลังกาหลวง ดอยสุดสวยแต่ (แอบ)โหด บนรอยต่อสามจังหวัด
ด้วยสภาพเส้นทางการเดินที่ค่อนข้างหนัก บางช่วงต้องปีนป่ายขึ้นสู่ผาหิน บางช่วงต้องเดินบนสันเขาที่มีทางแคบเล็กชวนให้หวาดเสียว แต่ในทุก ๆ เส้นทางเราจะมีทิวเขาที่เรียงตัวอย่างสลับซับซ้อนของเทือกเขาผีปันน้ำ และตลอดเส้นทางเดินป่า เราจะได้เจอกับความหลากหลายของธรรมชาติที่หาได้ยากในผืนป่าอื่น ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นเส้นทางที่ท้าวัดใจนักท่องไพรเป็นอย่างมาก
นี่คือ 7 เหตุผล ที่ทำให้ ลังกาน้อย ลังกาหลวง ที่อยู่ในลิสต์เส้นทางเดินป่าในฝันที่ต้องไป
1.เส้นทางสวย เห็นทะเลภูเขาเกือบตลอดเส้นทาง
การเดินเท้าเที่ยวป่าเส้นทางนี้ เราจะได้เดินผ่านยอดเขาที่มีความสูงติดอันดับ 16 ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยถึง 3 ยอดด้วยกัน ได้แก่
1. ยอดดอยลังกาหลวง มีความสูง 2031 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศไทย
2. ยอดดอยลังกาน้อย มีความสูง 1800 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 11 ของประเทศไทย
3. ยอดดอยผาโง้ม มีความสูง 1767 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศไทย
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่ตุ้ย
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่ตุ้ย
จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเจอทะเลภูเขาน้อยใหญ่ วางเรียงตัวสลับซับซ้อนกันตลอดเส้นทาง เรียกได้ว่า เห็นวิวจนหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว
2 ตื่นเช้าไปดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ดวงโตกว่าไข่ห่าน
การไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดลังกาหลวง เราต้องตื่นแต่เช้ากันสักนิด เพื่อเดินจากจุดตั้งแค้มป์ ไปยังจุดชมพระอาทิตย์ใช้เวลาในการเดินเท้าราว 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ที่นี่มีเหล่าดอกหญ้าปลิวไหวตามแรงลมอยู่เนื่องๆ อ่ยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเราระหว่างรอคุณพระอาทิตย์ตอกบัตรเข้าทำงาน
พระอาทิตย์ดวงเดียวกัน แต่มุมมองความงามไม่เคยเหมือนกัน อย่างน้อยพระอาทิตย์ที่ลังกาน้อย และพระอาทิตย์ที่ลังกาหลวงก็บอกเราเช่นนั้น
ดวงอาทิตย์ยามเช้าที่ ลังกาน้อย นั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย เพราะดวงอาทิตย์กลมโตสีส้มออกไปทางแสด จะค่อยๆ ทอแสงสีทองออกส้มผ่านช่องเขาที่วางตัวสลับเป็นฟันปลา พาดผ่านพระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์บนเขาแห่งนี้ ก่อนเผยโฉมพลังงานอันร้อนแรงออกมาอย่างเต็มเปี่ยม
3. ยามค่ำคืนไปนั่งล้อมกองไปภายใต้ดวงดาว
การได้ไปนั่งอยู่ใต้ดวงดาวท่ามกลางอากาศหนาว ๆ ที่บนยอดลังกาน้อย ก็คงเป็นช่วงเวลาที่จำไม่รู้ลืม โดยเฉพาะคนที่ชอบนั่งล้อมวงเล่าเรื่องดวงดาวก่อนเข้านอน เพราะบนยอดลังกาน้อย เป็นดอยเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่ บริเวณรอบ ๆ ก็ไม่มีแสงไฟฟ้ามารบกวน เราจึงเห็นดวงดาวส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้ากว้างได้ชัดราวกับผงอัญมณีที่ส่องแสงบนผืนผ้ากำมะหยี่สีดำผืนใหญ่
4.เห็นวิวรอยต่อ “สามเขา สามมุม”
เส้นทางเดินป่าหน้าหนาวเส้นนี้มีอาณาเขตครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายและลำปาง จึงทำให้เราได้เห็นรอยต่อของป่าทั้ง 3 จังหวัด ในช่วงที่อากาศดี ๆ เราจะได้เห็นยอดเขาสูง ๆ อย่าง ยอดดอยอินทนนท์กันเลยทีเดียว
5.จะเลือก”เร้าใจ” หรือ “ทรหด” ก็ดีไซน์ให้เหมาะกับตัวเองได้
เส้นทางสายเร้าใจ – ฐานเรดาร์ – ผาโง้ม – ลังกาหลวง – ลังกาน้อย
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเดินป่าที่หนักและไกลพอสมควร แต่เดินชันขึ้นเขาให้น้อยกว่าเส้นทางสายทรหด
เส้นทางสายทรหด – ลังกาน้อย – ลังกาหลวง – ผาโง้ม – ฐานเรดาร์
เป็นเส้นทางที่ต้องเดินขึ้นทางชันสูงมากกว่า ในระยะทางที่เท่ากับเส้นทางสายเร้าใจ เพราะทางขึ้นที่ลังกาน้อยเป็นทางขึ้นเขาแบบชันยาว ใครรักเส้นทางนี้คงต้องฟิตกำลังขามาดีๆ กันเลยล่ะ
6.โลกใบเล็กแสนน่ารักซุกซ่อนอยู่ตลอดทางของโลกใบใหญ่อันสวยงาม
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่หนึ่ง
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่หนึ่ง
ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นสวรรค์ของนักเดินป่าสายมาโครเลยทีเดียว เพราะผืนป่าแห่งนี้เป็นไปด้วยต้นมอส ต้นเฟิร์น ปกคลุมตามต้นไม้สูงใหญ่เกือบตลอดเส้นทางเดิน
โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว เราจะพบกับโลกเล็ก ๆน่ารัก ๆ ของเหล่าดอกไม้ป่าที่จะพากันเผยโฉมตกแต่งผืนป่าสีเขียวชะอุ่มแห่งนี้ให้เต็มไปด้วยจุดแต้มสีต่างๆ ไปทั่วทั้งผืนป่า ไม่ว่าจะเป็นสีขาวปนจุดสีชมพูของดอกกุหลาบลังกาหลวง สีแดงเข้มจากดอกไก่แดง สีเหลืองจากดอกกล้วยไม้ สีขาวปนม่วงของดอกหรีด ฯลฯ
7. เป็นเส้นทางเดินป่า ที่ทำให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีน ได้เกือบตลอดทาง
ที่นี่เป็นเส้นทางที่รวมยอดเขาสูงติดอันดับ 16 เขาสูงในเมืองไทย ดังนั้นตลอดเส้นทางเดินจึงไม่ใช่ทางราบเรียบที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยทางสูงชัน ลาดชัน ลงชัน ล้วนแต่นำพาให้หัวใจเต้นตุ๊บ ๆ ต่อมๆ สลับกับหัวใจที่เต้นแรงเพราะความเหนื่อย
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่มานะ
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่ไท
แต่ทำไมถึงเป็นไฮไลท์ที่ทำให้ เป็นเส้นทางในฝันของนักเดินป่าล่ะ
จากบทความของ ไขความลับ… กลไกร่างกายกับ “ความกลัว” จากเว็บ https://www.voathai.com ที่ได้กล่าวถึงงานวิจัยจากทีม University of Cambridge ที่หาคำตอบว่า “ทำไมคนเรายังเลือกกระโดดจากที่สูง หรือ บันจี้จัมพ์ ไปเที่ยวบ้านผีสิง หรือชมภาพยนตร์สยองขวัญกันอยู่ ทั้งที่รู้ว่าจะต้องเจอกับเรื่องน่ากลัวก็ตาม?”
ทางทีมวิจัยได้คำตอบว่า เมื่อเราต้องเผชิญกับเรื่องน่ากลัว หรือเรื่องน่าหวาดเสียว จะทำให้สมองส่วน Amygdala ที่ทำงานเกี่ยวกับด้านการรับรู้อารมณ์ ส่งสัญญาณผ่านสมองส่วน Hypothalamus ไปยังต่อม Pituitary และต่อม Adrenal ทำให้เราเกิดความรู้สึกตื่นกลัว ตื่นเต้น
ซึ่งปรากฎการณ์นี้ทำให้ร่างกายเกิดการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน และโดพามีน ไปทั่วร่างกาย ซึ่งสำหรับเหล่าคนที่ยังคงเผชิญหน้ากับความรู้สึกตื่นกลัว หรือช่วงเวลาอันน่าหวาดหวั่นนี้ งานวิจัยกล่าวว่าเป็นกลุ่มคนที่จิตใต้สำนึกของพวกเขารู้ว่าพวกเขาปลอดภัย ไม่ได้เป็นอันตราย และไม่มีทางต้องตายแน่นอนและใช้ประโยชน์จากสารเคมีในสมองและฮอร์โมนที่พุ่งพล่านถาโถมท่ามกลางความกลัว ณ เวลานั้น เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับร่างกายผ่านฮอร์โมนและสารสื่อประสาทของร่างกายนั่นเอง
ไปเดินป่า ลังกาน้อย ลังกาหลวง ช่วงไหนดี?
เส้นทางเดินป่าเส้นทางนี้อยู่ในการดูแลของชมรมเดินป่าเพื่อการอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติขุนแจ ซึ่งจะมีกำหนดการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวเดินป่ากันช่วงปลายเดือนตลุาคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยจะต้องทำการติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อทำเรื่องเข้าไปก่อนทุกครั้ง ด้วยสภาพเส้นทางที่มีโอกาสหลง และมีหลายช่วงที่อาจเกิดอันตรายได้ จึงจำเป็นต้องมีทีมเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทุกครั้งนะจ๊ะ