ทริปม่อนทูเล เป็นเส้นทางเดินป่าที่เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเดินป่ามาได้เกือบ 10 ปีแล้ว โดยเริ่มจากทีมงานไปสำรวจของทีมงานคุณป้อม สุจิตรา 1 ในทีมสตาฟของ TKT ร่วมกับชาวบ้านในบ้านแม่จวาง เรื่องราวการเดินทางอันแสนอัศจรรย์ได้ถูกถ่ายทอดเล่าเรื่องผ่านบอร์ด “ท่องไปตามใจฝัน” ของเว็บไซต์ Trekkingthai.com (เว็บเก่าของเรา) และนับตั้งแต่นั้น ชื่อ ม่อนทูเล ก็ติดอยู่ในอันดับของยอดเขาในป่าไทยที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไป
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Patchara Sangpet
อะไรที่ทำให้ ม่อนทูเล มีเสน่ห์ได้ขนาดนั้น?
นี่คือ 7 เหตุผลที่คุณจะพลาดมาก หากยังไม่ได้ไปเดินป่า ทริปม่อนทูเล
1 แสงสีทองในตำนาน ม่อนทูเล
มีชื่อเรียกในภาษาปาเกอะญอว่า “ทู เล โค๊ะ” ซึ่งมีความหมายว่า ภูเขาสีทอง เพราะยอดเขาแห่งนี้เป็นสีทองจริง ๆ ตามชื่อที่ชาวบ้านเรืียกขาน ในช่วงยามเย็นที่อาทิตย์ใกล้อัสดงลับขอบฟ้า หรือช่วงเช้าที่แสงอาทิตย์เริ่มทอแสงโผล่พ้นขอบเขา เราจะเห็นภูเขาทั้งลูกกลายเป็นสีทองอันแสนอบอุ่น ที่หาแสงสวยระดับนี้ได้ยากมากจริง ๆ
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่มัท
2 เส้นทาง เดินป่าม่อนทูเล = เส้นทางแห่งทะเลหมอก
นับจากจุดตั้งแค้มป์ที่ “ม่อนทูเล” ไปยังจุดตั้งแค้มป์วันทีสอง “คลุยหลวง” จนถึงวันเดินทางกลับไปยังม่อนคลุย เราจะเจอทะเลหมอกหนานุ่ม มารอต้อนรับทุกเช้า ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นหุบเขา และมีแม่น้ำเมยไหลขนาบข้าง ทำให้โอกาสที่เราจะเจอทะเลหมอกสีขาวปุกปุยตลอดเส้นทาง ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
ขอขอบคุณรูปภาพจากพี่มัท
3 เส้นทางเดินป่า ทริปม่อนทูเล ขึ้นชื่อเรื่องสุดท้าทาย
ว่ากันด้วยระดับความสูงของยอดเขา ม่อนทูเล อาจไม่ใช่ยอดเขาที่สูงมากเท่าไหร่นัก แต่สภาพเส้นทางที่กว่าจะไปถึงยอดเขานั้นไม่หมู แต่เป็นกระดูกแทน แฮ่…..
สภาพเส้นทางการเดินนั้นเราต้องเดินไต่ระดับความสูงตามสันเขาไปเรื่อย ๆ ทางขึ้นมากกว่าทางลง ช่วงสุดท้ายก่อนไปถึง จุดตั้งแค้มป์ม่อนทูเล ต้องใช้สองมือคอยจับต้นหญ้าแล้วดึงตัวเดินไปตามทางชันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงยอดของเนินเขา แค่นึกถึงก็ปาดเหงื่อแล้ว.. แต่ระหว่างทางที่ว่ายากนั้น เราก็แทบไม่เหนื่อยเลย เพราะวิวสวยเกินบรรยาย แค่นั่งพักก็อิ่มใจแล้ว ^^
ขอขอบคุณรูปภาพจากคุณPatchara Sangpet
4 อุโมงค์ต้นไม้ 1 ในไฮไลต์ เส้นทางเดินป่าม่อนทูเล ที่สวยราวเทพนิยาย
แว้บแรกที่เราเดินมาถึงอุโมงค์ต้นไม้ที่ลำธารก่อนถึงจุดตั้งแค้มป์ ม่อนทูเล เรานึกถึงภาพในฉากอุโมงค์ต้นไม้ของภาพยนตร์ The lord of the ring
ขอขอบคุณรูปภาพจากสตาฟพี่มัท
“สวยจัง” เป็นเพียงคำเดียวที่หลุดออกจากปาก แสงแดดที่รอดผ่านต้นไม้แล้วส่องกระทบมายังพื้นทรายที่อยู่ใต้ลำธารจนกลายเป็นแสงสีทอง พรรณไม้เล็ก ๆ ที่ขึ้นอยู่ตามริมน้ำ นานแล้วที่คุณป้อมเคยเล่าให้ฟังว่า ลำธารตรงนี้เคยมีข้าวตอกฤาษีอยู่ด้วย แต่น่าเสียดายหลังๆ คนไปเที่ยวเยอะขึ้นแล้วทิ้งขยะเรี่ยราด ใช้สารเคมีลงน้ำ ทุกวันนี้ก็แทบไม่เหลือแล้ว
5 ทริปม่อนทูเล มีจุดชมวิวที่เยอะมากจนเอาเมมกล้องไปไม่พอ
ตลอดเส้นทางเดินของทริปนี้บอกได้เลยว่า เอากล้องเก็บกระเป๋าเป้ไม่ได้เลยทีเดียว เพราะอาจพลาดช็อตสวย ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย เตรียมเมมโมรี่ และแบตเตอรี่สำรองไปให้พร้อมนะ นี่คือคำเตือน!!!!
ขอขอบคุณรูปภาพจากคุณPatchara Sangpet
6 ตลอด เส้นทางเดินป่าม่อนทูเล เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ป่าเล็ก ๆ ที่คอยต้อนรับ
ในช่วงปลายฝน ต้นหนาว เป็นช่วงที่ดอกไม้ป่าเล็ก ๆ น่ารัก ๆ กำลังเริงร่าเต็มลานจุดชมวิวม่อนทูเล และจุดตั้งแค้มป์คลุยหลวง ไม่ว่าจะเป็นดอกกระดุมเงิน เอื้องม้าวิ่ง สร้อยสุวรรณา ดอกหงอนนาค ฯลฯ นักถ่ายภาพธรรมชาติที่ชอบความน่ารัก ๆ ของดอกไม้เล็ก ๆ รับรองว่าถ่ายภาพเพลินจนลืมกินข้าวกันเลยทีเดียว
7 หมู่มวลดวงดาวดารดาษ เด็มผืนฟ้า ดอยม่อนทูเล
ที่จุดตั้งแค้มป์ที่สองจุดในช่วงกลางคืน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะมากกับการนั่งดูดาวมาก ถึงมากที่สุด เพราะจุดตั้งแค้มป์ทั้งสองจุดเป็นลานโล่ง ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ ทำให้เรามองเห็นดวงดาวได้ง่ายมาก กว้างมากและชัดเจนมาก หากมองดี ๆ เราอาจเจอทางช้างเผือกด้วยนะ
ขอขอบคุณรูปภาพจากคุณเอฟ
7 ข้อนี้ เป็นเพียงส่วนประกอบที่ทำให้ ทริปม่อนทูเล กลายเป็นยอดเขาที่ยั่วยวนเชิญชวนให้นักท่องไพร ต้องไปในหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็เพราะความสวยของเธอนี่เองที่ทำให้เธอต้องเจอกับกองขยะมหึมา จากนักเดินทางที่ไร้ความรับผิดชอบ หากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสไปเยือนเขาลูกนี้เมื่อไหร่
อย่าทิ้ง !! อย่าเมินเฉยต่อขยะ อย่าไปตั้งแค้มป์ที่จุดชมวิวเลยนะ
เพราะเรากำลังเป็นผู้ทำร้ายธรรมชาติเพียงเพื่อเพราะความอยากสบาย ความอยากได้รูปสวยเพียงเท่านั้น
แต่อีกไม่นาน เชื่อเถอะว่า หากเราทุกคนยังทำร้ายธรรมชาติไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ ชื่อของยอดเขาลูกนี้ คงเป็นเป็นเพียงอดีตของเขาที่ต้องไปเท่านั้น!!