นั่งรถไฟเที่ยวเชียงใหม่ ไปสูดลมรับธรรมชาติให้สบายปอดที่ดอยอินทนนท์ อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสุดฟินของทุกช่วงฤดู
เส้นทางเวลาเดินรถไฟกรุงเทพ – เชียงใหม่
เส้นทางเวลาเดินรถไฟเชียงใหม่ – กรุงเทพ
(สามารถตรวจสอบเวลาการเดินรถเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ การรถไฟแห่งประเทศไทย)
นอกจากประเภทรถไฟต่าง ๆ ทั้งรถเร็ว รถด่วน รถด่วนพิเศษ ที่ให้บริการแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากดื่มด่ำบรรยากาศการนั่งรถไฟที่ต่างออกไป แนะว่าให้ลองนั่งขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถีที่ 9/10 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ ซึ่งทางรถไฟเปิดให้บริการ นอกจากจะเป็นรถใหม่แล้ว ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากขึ้น สะอาด สะดวก และปลอดภัย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ การรถไฟแห่งประเทศไทย)
จากการเดินทางกว่า 10 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดหมายกันแล้ว การเดินทางมาที่ดอยอินทนนท์จากสถานีรถไฟมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน
– ตัวเลือกที่ 1 จากสถานีรถไฟให้นั่งรถแดงแล้วบอกว่าลงที่ “ประตูเชียงใหม่” หลังจากนั้นให้สามารถเดินมาขึ้นคิวรถได้ 2 คิว ด้วยกัน คือ คิวรถเชียงใหม่-จอมทอง (แท่นคำ) รถสี่ล้อเหลือง บอกมาลงที่หน้าวัดพระธาตุจอมทอง และคิวรถเชียงใหม่-ฮอด รถเมล์ฟ้า บอกว่ามาลงที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง
– ตัวเลือกที่ 2 จากสถานีรถไฟให้นั่งรถแดง บอกว่ามาลงขนส่งอาเขต (เชียงใหม่) ที่นี่จะมีรถเมล์สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ซึ่งผ่านจอมทอง (หากไม่แน่ใจว่าคันไหนถามคนขับได้เลย) หลังจากมาถึงหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง จะมีคิวรถขึ้นมายังดอยอินทนนท์
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเที่ยวดอยอินทนนท์ ดินแดนแห่งขุนเขาที่หลายคนใฝ่ฝันหา อาจต้องเจอกับอุปสรรคของความชันและคดเคี้ยวของเส้นทาง ถ้าใครคิดว่าตัวเองมั่นใจในฝีมือการขับรถยนต์หรือขี่มอเตอร์ไซค์ ก็สามารถติดต่อขอเช่าได้เลย วิธีนี้เรียกได้ว่ามีความคล่องตัวสูงในการเดินทาง หากไม่ลืมที่จะระมัดระวังและไม่ประมาทในการขับขี่ด้วย แต่สำหรับใครที่ขับรถไม่เป็นก็สามารถติดต่อเหมารถสองแถวพาเที่ยวได้เช่นกัน เอาล่ะ เมื่อเตรียมการทุกอย่างหมดแล้ว จะรอช้าอยู่ทำไม ออกไปสำรวจธรรมชาติดอยอินทนนท์ด้วยกันเลย
แหล่งท่องเที่ยวดอยอินทนนท์
จาก เว็บไซต์ สำนักอุทยานแห่งชาติ
ยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย คือสูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมายังจุดไฮไลต์ “สูงสุดแดนสยาม” ถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมี “พระสถูปพระเจ้าอินทวิชยานนท์หรือที่เรียกว่ากู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์” ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรดาต้นไม้สูงใหญ่ ตลอดจนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ให้เราได้เดินเก็บเกี่ยวความสวยงามในทุกอณูแบบไม่รู้เบื่อเลย
ภาพจาก ploypemuk / Shutterstock.com
เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
จุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางทิวทัศน์ของทะเลภูเขาอยู่เบื้องหน้า ยิ่งถ้ามาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวหรือไม่ก็ฤดูหนาว บอกเลยว่าพีคสุด ๆ บวกกับอากาศเย็นสบายกำลังดี เหมาะอย่างยิ่งกับการชมวิวเสพความสุขที่รายล้อมด้วยทุ่งดอกไม้ พรรณไม้นานาชนิด ซึ่งเป็นความสวยงามที่เราไม่ค่อยได้หาชมจากที่ไหนง่าย ๆ รับรองว่าคุณและธรรมชาติได้แอบอิงแนบสนิทเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันแน่นอน
จุดชมวิว กม.41
อยู่ระหว่างทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยอดนิยมอีกที่หนึ่ง รวมถึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของขุนเขาสลับซับซ้อน โดยเฉพาะยามเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมเหนือหุบเขา จากจุดชมทิวทัศน์สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริสูงเด่นอยู่คู่กัน เรียกได้ว่าสวยงามตราตรึงไม่แพ้จุดชมวิวที่อื่นเลยทีเดียว
สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
เป็นสถานีวิจัยมูลนิธิโครงการหลวง โดยมุ่งเป้าเพื่อช่วยเหลือชาวไทยภูเขา ตลอดจนยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น สนับสนุนการปลูกพืชเมืองหนาวและเลี้ยงสัตว์โดยยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับเหล่าบรรดาสารพัดดอกไม้เมืองหนาวหลากสีสัน ต่างแข่งขันกันบานชูช่อ หรือหากมีเวลาแนะนำให้นอนค้างบ้านพักของสถานีเกษตรดูสักคืน เพื่อเก็บเกี่ยวบรรยากาศความสวยงามแบบเต็มที่ แถมยังเดินเล่นชมดอกไม้ ถ่ายรูปได้เลยทั้งวัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon
น้ำตกสิริภูมิ
น้ำตกที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังสำนักงานสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ โดยสามารถเดินเท้าไปเองได้ ถือเป็นหนึ่งในจุดไฮไลต์ เพราะจะได้ดื่มด่ำกับความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ใหญ่และเฟิร์นหลากหลายสายพันธุ์ บางชนิดสามารถพบได้ที่นี่เท่านั้น เหล่านี้เป็นความเอ็กซ์คลูซีฟที่ธรรมชาติได้มอบไว้เป็นรางวัลแก่ผู้มาเยือน รวมถึงยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเอาไว้เดินเพลิน ๆ แถมมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้ได้ถ่ายรูปกันหนำใจไปเลย
บ้านแม่กลางหลวง
เต็มอิ่มกับวิถีสโลว์ไลฟ์ ณ บ้านแม่กลางหลวง ยิ่งถ้ามาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวจะพบกับช่วงเวลาสุดแสนวิเศษ ท้องทุ่งนาข้าวเขียวขจีแบบขั้นบันได ลดหลั่นกันไปตามชั้นไหล่เขา ภายใต้สายหมอกลอยเคล้าคลอเคลีย อีกทั้งวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ยังแต่งแต้มให้บ้านแม่กลางหลวงดูมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้ชื่นชมกับบรรยากาศความเรียบง่ายแบบนี้ ไปถึงทั้งที ต้องตักตวงให้เต็มที่หน่อยแล้ว
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้ รองเท้านารีอินทนนท์ ซึ่งมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ภายในศูนย์ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสวนดอกไม้และกล้วยไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนมกราคม นอกจากจะได้ชมกล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์แล้วยังได้ชม ดอกนางพญาเสือโคร่งออกดอกบานอยู่ริมทะเลสาบอีกด้วย
บ้านผาหมอน
ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาสูง จึงทำให้อากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี กิจกรรมท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น นั่นคือ การชมแปลงผักผลไม้เมืองหนาวต่าง ๆ หากแต่สิ่งที่เป็นไฮไลต์จริง ๆ เห็นจะเป็นการชื่นชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งจะออกดอกช่วงต้นถึงปลายเดือนมกราคมของทุกปี โดยจะบานสะพรั่งเป็นสีชมพูสวยตลอดริมทาง มองดูคล้ายอุโมงค์ซากุระ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
น้ำตกแม่ยะ
การเดินทางมาเที่ยวอินทนนท์ด้วยรถไฟครั้งนี้ เราเชื่อว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน อย่าพลาดที่จะแวะเก็บเกี่ยวธรรมชาติสวย บันทึกความทรงจำต่าง ๆ ด้วยสองตา แล้วประทับความตราตรึงด้วยใจ กับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ดอยอินทนนท์แห่งนี้กันนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
เว็บไซต์ railway.co.th, เฟซบุ๊ก ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง), เว็บไซต์ park.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon