เดินเข้าป่า เปรียบดั่งช่วงเวลาที่ให้กายและใจได้รับพลังจากธรรมชาติ
เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมการที่เราได้เอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ร่างกายเราถึงรู้สึกได้ผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าเราได้หยุดพักจากงานที่เครียด ได้อยู่ห่างสังคมเมืองที่วุ่นวาย หรือว่าจริงๆแล้วป่าและธรรมชาติให้อะไรเรามากกว่านั้นกันแน่?
เป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับกลไกความสัมพันธ์ของมนุษย์และธรรมชาติ ว่าทำไมการที่คนและธรรมชาติอยู่ใกล้กันช่วยเพิ่มความสุขให้แก่กายและใจ
แล้วกลไกความสัมพันธ์ระหว่างเราและธรรมชาติจริงๆ คืออะไรล่ะ?
นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเป็นผู้บุกเบิกเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ ได้เดินทางไปศึกษายังเกาะยากุชิมะ (Yakushima) ซึ่งเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับความหลายทางชีวภาพแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เขาได้ไปหาคำตอบเกี่ยวกับกลไกความสัมพันธ์นี้ทำให้พบหลายปัจจัยและเหตุผลที่ทำให้เราและธรรมชาติช่วยส่งเสริมพลังให้กัน
ในขณะที่เรากำลังสูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติ มีเหตุผล 3 อย่างซึ่งปัจจัยสำคัญที่มอบประโยชน์แก่ร่างกายซึ่งช่วยทำให้เรามีความสุขและสุขภาพดีขึ้น
เหตุผลที่ 1 ในป่า คุณจะได้พบกับแบคทีเรียและจุลชีพที่มีประโยชน์
เจ้าพวกแบคทีเรียและจุลชีพเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในธรรมชาติ และเมื่อเรายิ่งเรามีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าแบคทีเรียและจุลชีพพวกนี้มากเท่าไหร่ ร่างกายเราก็จะจัดสมดุลเข้ากับสังคมที่หลากหลายของสิ่งมีชีวิต และเพื่อนร่วมโลกตัวน้อยเหล่านี้เข้าด้วยกัน มีผลทำให้คนที่กลับออกมามีความสุขและแข็งแรงขึ้น
เหตุผลที่ 2 สารหอมระเหยจากพืชและต้นไม้ หรือ ไฟตอนไซด์ (Phytoncide) ดีต่อใจ
Phytoncide คือ น้ำมันจากธรรมชาติ ที่เหล่าต้นไม้ต่างๆ ปล่อยออกมาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวมันเองจากสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบ เช่น แบคทีเรีย แมลง และเชื้อราต่างๆ และเจ้า Phytoncide ที่ปล่อยออกมานี่แหละ ยังเป็นช่องทางในการสื่อสารของ ต้นไม้กับต้นไม้ กันเองอีกด้วยค่ะ
เพื่อนรู้ไหมคะว่า สารเหล่านี้ที่ต้นไม้ปล่อยออกมานี่แหละเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์เรา เพราะเป็นเหมือนตัวการสำคัญที่ช่วยต่อสู้กับจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายของร่างกายได้อย่างดีเลยค่ะ (แต่ทั้งนี้แตกต่างกันไปตามชนิดของต้นไม้นะ)
เหตุผลที่ 3 อากาศในป่าอุดมไปปด้วยอากาศประจุไฟฟ้าลบ
เมื่อเราสูดหายใจเข้าปอด เจ้าอากาศประจุไฟฟ้าลบจะทำปฏิกิริยากับร่างกายซึ่งมีอิทธิพลต่อจิตเราใจในด้านดี ทำให้เรารู้สึกมีความสุขขึ้นและผ่อนคลาย โดยเราจะพบอากาศที่เป็นประจุไฟฟ้าลบได้มาก ตอนเราเดินเข้าไปในป่า หรือเดินริมทะเล (ตรงบริเวณยอดคลื่น)
เหตุผลที่ 4 เดินเข้าป่า ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
การได้อยู่ท่ามกลางต้นไม้ ป่าไม้ มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเราให้กลับมาแข็งแรงขึ้นและการได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างในป่าและในธรรมชาติแล้ว เปรียบเสมือนเป็นภูมิทัศน์ในการบำบัดโรคของร่างกายเราอีกด้วย
โดยมีการวิจัยออกมาว่า การเข้าป่า อาบป่า ช่วยเพิ่มเซลล์เพชรฆาต หรือ Natural Killer Cell มากถึง 50% โดยประมาณ โดยเจ้าตัว NK Cell นี้แหละ เป็นหัวใจหลักของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับเจ้าโรคร้ายต่างๆที่คุกคามเข้ามาหาเรา
เหตุผลที่ 5 เดินเข้าป่า ช่วยให้เราหลับดีขึ้น
Better Sleep = Better Life
มีผลการวิจัยของ Nippon Medical School โรงเรียนการแพทย์ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พบว่าเวลาในการนอนระหว่างทริปอาบป่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 15% โดยผู้คนสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นเป็นเวลาถึง 452 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับเวลานอนก่อนเข้าป่าเป็นเวลา 383 นาที
เพราะสุขภาพของการนอนเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ เพื่อนๆคนไหนที่มีปัญหานอนไม่หลับ นอนแล้วชอบสะดุ้งตื่นกลางดึกต้องลองไปเข้าป่าดูสักครั้งนะคะ รับรองว่าสุขภาพการนอนหลับที่ดีจะกลับมา ทำให้เราหลับได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น และหลับสนิทมากขึ้นค่ะ
ถ้าใครลองไปมาแล้ว มาสังเกตุตัวเองกันดูสิว่าหลังจากกลับมาจากการเข้าป่าแล้ว สุขภาพการนอนของเราดีขึ้นไหม แต่ที่แน่ ๆ ถ้าเดินป่าสายโหด เส้นทางเหนื่อยๆ กลับมายังไงก็หลับแน่นอน ^^
เหตุผลที่ 6 เดินเข้าป่า ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ใจเย็นขึ้น
กลิ่นของดิน กลิ่นป่า กลิ่นธรรมชาติ เสียงจากลมที่พัด นกร้อง หรือเสียงสัตว์ป่า ช่วยให้เพื่อนๆหายจากอาการเหนื่อย เครียด วิตกกังวลเหล่านี้ได้จริง กลิ่นและเสียงเหล่านี้เนี่แหละ ทำให้หัวสมองเราเริ่มปล่อยเกียร์ว่าง ปล่อยวาง ลดความเครียด ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย สบาย และผ่อนคลาย และยังช่วยปรับอารมณ์เราให้ดีขึ้น นำสิ่งไม่ดีออกไป และนำสิ่งดีๆกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งหนึ่งด้วยค่ะ
เหตุผลที่ 7 เดินเข้าป่า ช่วยพัฒนาความจำ และช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์
การเข้าป่าช่วยพัฒนาสุขภาพอารมณ์และความคิดของเราด้วยนะคะ โดยจากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Michigan ของสหรัฐอเมริกาพบว่าประสิทธิภาพความจำและสมาธิของคนที่เดินเข้าป่า หรือเดินในบริเวณที่มีต้นไม้ล้อมรอบ มีแนวโน้มที่จะมีความจำและสมาธิสูงขึ้นถึง 20% นอกจากนี้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆและการเกิดความคิดสร้างสรรค์ที่ตามมา ยังดีขึ้นอีกด้วยและอาจมากถึง 50% เลยทีเดียวค่ะ
จึงเป็นที่สรุปได้ว่า ธรรมชาติช่วยให้เรา ทำลายกำแพงการปิดกั้นทางด้านความคิด เกิดความคิดสร้างสรรค์ ทำให้หัวสมองได้ริเริ่มคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และคิดบวกมากขึ้นอีกด้วยนะ
จริงๆแล้ว การเดินเข้าป่า ยังมีข้อดีอีกมากมายหลายอย่างที่เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนที่เคยไปสัมผัสมาแล้ว จะเข้าใจได้เองกับตัว และยังเป็นเหตุผลที่หลายๆคนเลือกที่จะเดินเข้าป่าอยู่ค่ะ…
เทรคกิ้งไทย ชวนรู้จัก การอาบป่า เดินเข้าป่า แบบช้าๆ ต้นกำเนิดจากชาวญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอารยธรรมด้านป่าไม้ หรือ Forest Civilization ในด้านวัฒนธรรม ปรัชญา และศาสนาของชาวญี่ปุ่นก็ถูกหล่อหลอมมาจากป่าที่ปกคลุมทั่วประเทศพวกเขา โดยศาสตร์นี้มีมานาน เกือบ 40 ปีได้แล้วนะคะ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 ซึ่งคำว่า อาบป่า มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า Shinrin-yoku เป็นกิจกรรมที่ริเริ่มโดยรัฐบาลญี่ปุ่น
จัดขึ้นครั้งแรกที่ป่าอาคาซาวะ เพื่อให้ประชาชนของเขา ได้เอาตัวเองออกมาจากชีวิตประจำวันแบบเดิม ๆ เนื่องจาก ประชาชนของเขาเกิดความเคร่งเครียด มีอารเจ็บป่วยร่างกาย สุขภาพจิตและสุขภาพกายเริ่มแย่ลง ก็อย่างที่เราทราบกันดีว่าวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น เป็นคนใส่ใจรายละเอียด จริงจัง และมีวินัยสูงมาก จึงไม่เป็นที่แปลกใจเลยว่า ศาสตร์แห่งการอาบป่า ที่มีสวยงาม ละเอียดอ่อน ประณีตและใส่ใจทุกขั้นตอนเหล่านี้ จะมีต้นกำเนิดมาจากชาวญี่ปุ่น
รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพชีวิต จึงมีการบุกเบิกการอาบป่าขึ้นมา ที่เชื่อว่าคนต้องการได้รับการเยียวยาจากธรรมชาติ และแนวคิดนี้ยังอยู่แคมเปญการรณรงค์การปกป้องผืนป่าอีกด้วย
เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่า ยิ่งเราถูกกระตุ้นให้เข้าป่าเพราะอยากสุขภาพดี จะทำให้พวกเขามีความคิดที่อยากจะปกป้องป่าและดูแลผืนป่าให้ดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ
การอาบป่า ไม่ต้องรีบเร่ง หรือทำกิจกรรมอะไรหนักๆเลย เป็นเพียงแค่การที่เราได้เปิดสัมผัสทั้ง 5 ของเราให้ได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติแค่นั้นเองค่ะ แค่ไปอย่างช้าๆ ไม่ต้องรีบ
อาบป่า ยังช่วย…
- ลดความดันโลหิต
- ลดความเครียด
- ช่วยในเลือดลมสูบฉีดดีขึ้น
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ลดอาการซึมเศร้า
- เพิ่มพละกำลัง
- ต้านมะเร็ง
- ลดน้ำหนัก
เป็นเหมือนการชำระล้างทางกายและใจ เมื่อใดที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้า พักก็แล้ว นอนเท่าไหร่ก็แล้วยังรู้สึกไม่หายเหนื่อย อยากให้ทุกคนได้หาเวลาให้กับตัวเอง ได้ลองไปอาบป่าดูค่ะ แล้วคุณจะค้นพบวิธีการชำระล้างความเหนื่อยล้าทางกายและใจ ให้ตัวคุณได้รับพลัง และกลับมาการใช้ชีวิตที่มีคุณค่าอีกครั้งค่ะ
Forest Bathing- The Power of healing from nature.
การเดินเข้าป่า ก็เหมือนเวลาที่ทำให้ร่างกายได้หยุดพัก สี เสียง แสง และสัมผัสจากธรรมชาติ ทำให้ร่างกายผาสุกมากขึ้น อากาศบริสุทธิ์จากป่า ช่วยเติมเต็มพลังกาย พลังใจ และในป่ายังมีอะไรมากมายให้ทำ…(อีกเยอะ)
ลูกเพจเทรคกิ้งไทยเคยกล่าวไว้ว่า การได้เดินป่าจะรู้ว่าการเดินได้นั้นมีความหมายมาก …
ชวนไปลองอาบป่า เดินป่า กันนะคะ ^^
อยากฝึกวิชาอาบป่าง่ายๆที่บ้าน อย่ารอช้า เริ่มก่อนใครได้แล้วตอนนี้ > อาบป่า อาบความสุข ทำง่ายๆ เริ่มได้ที่บ้านคุณ
อยากลองเดินเข้าป่า สไตล์ อาบป่า แบบชาวญี่ปุ่น อ่านได้ที่นี่ >> https://tour.trekkingthai.com/product/อาบป่า-นครนายก/
………………………………………………………………………….
“เรายินดีช่วยให้คำปรึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมคำแนะนำ สาธิตวิธีการต่าง ๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม ในครั้งต่อๆ ไป จะสามารถทำได้เอง ไม่ต้องเสียเวลามาที่ร้าน จ้า”
“ด้วยความเป็นเพื่อน บริการด้วยใจ เรายินดีให้คำปรึกษาทั้งในการใช้งาน และปัญหาต่าง ๆ”