เดินป่า X ชาบู X เพื่อน สูตรคูณที่จะช่วยเยียวยาหัวใจให้หายห่อเหี่ยว
ทำไมเราจีงควรชวนเพื่อนไป เดินป่าและล้อมวงกินชาบูกัน
ก่อนอื่นเรามาลองเทียบความต้องการพื้นฐานของคนเรากับทฤษฎีของความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ตามแนวคิดของมาสโลว์ (Dr. Abraham H. Maslow) นักจิตวิทยาผู้ที่วางรากฐานจิตวิทยาแนวมนุษยนิยม โดยเราได้นำข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ themacho ในบทความ “ทำไม? “หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง”เขียนโดย คุณWATHANYOO CHAROENCHITPUBLISHED ตีพิมพ์เมื่อ29/08/2018
ในบทความนี้ได้พูดถึงความเชื่อมโยงระหว่างความต้องการของคนกับวงหมูกระทะ แต่เราเลือกวงชาบูเพราะเวลาไปป่า ชาบูล้างภาชนะง่ายกว่าหมูกระทะ และแน่นอนล่ะว่า ดีต่อสุขภาพกว่า
ซึ่งเรื่องการกินนี้ถือว่าเป็นความต้องการพื้นฐานขั้นต่ำสุดของมนุษย์ทุกคน แต่วงชาบูให้คุณค่าที่เกินกว่าความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์นั่นคือ เราจะกินชาบูได้มากเท่าที่เราจะอิ่ม หากเราเทียบกับการกินแบบบุฟเฟ่ต์ในปัจจุบัน ซึ่งเท่ากับว่าเราได้ถูกตัดความกังวลใจฝังอยู่ในจิตใจส่วนลึกของมนุษย์เรื่องการต้องหาอาหารให้อิ่มอยู่ตลอดเวลาออกไป
และโดยส่วนใหญ่เรามักจะล้อมวงกินชาบูกับเพื่อน หรือครอบครัวมากกว่า ซึ่งการล้อมวงทานอาหารที่ดูเหมือนไม่มีการจำกัดอยู่ตรงกลาง ทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกมั่นคงเกิดขึ้น จนนำไปสู่การพูดคุยหยอกล้อระหว่างกัน มีการแชร์ประสบการณ์ หรือปรับทุกข์ร่วมกันในวงชาบู ซึ่งนำไปสู่การยอมรับ ยิ่งโดยเฉพาะการที่เราได้ไปใช้ชีวิตร่วมกันในป่าที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก ทุกคนต้องใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนกันในป่า มีเงินแค่ไหนก็ซื้อน้ำอัดลมเย็น ๆ ในตอนที่ต้องการที่สุดไม่ได้
และการที่ต้องไปถึงจุดล้อมวงชาบูในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวกลางพงไพร ทุกคนต้องใช้ความสามารถของตัวเองในการพาตัวเองขึ้นไปให้ถึงให้ได้ นั่นเท่ากับว่าความภาคภูมิใจในตัวเองได้ทะลุผ่านความต้องการพื้นฐานของตัวเราไปแล้ว
สิ่งพิเศษอีกอย่างของการล้อมวงชาบูกลางป่า คือ เราจะได้รับความรู้สึกของความเท่าเทียมกัน ชิ้นหมูที่วางอยู่ตรงหน้าก็คือชิ้นเดียวกัน เรากำลังกินสิ่งเดียวกัน ในสถานที่ที่ต้องนอนเหมือนกัน เปียกน้ำค้างเหมือนกัน ไม่มีไฟเหมือนกัน ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เหมือนกัน และต้องเข้าห้องน้ำในป่าเหมือนกัน ทำให้ เรารู้สึกถึงความเท่าเทียมกันไม่ว่าในปัจจุบันที่เราได้มาร่วมกลุ่มกัน แต่ละคนมีมีหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน และตัดเรื่องชื่อเสียงต่างๆ ออกไป
และจุดพีคสุดของเรื่องนี้คือ เมื่อเราได้เดินทางมาถึงจุดที่เราไม่สามารถยัดอะไรเข้าปากเราได้อีกต่อไป จุดที่เราบอกตัวเองว่า “พอ” และพาเพื่อนไปเดินย่อยด้วยการดูดาวล้านดวงในยามค่ำคืน ก่อนไปแปรงฟันเข้านอน แค่นี้ชีวิตเราก็อิ่มเกินบรรยายแล้ว
นี่คงเป็นเหตุผลน่ารัก ๆที่ให้ป่ากับชาบู เหมือนมีสารเคมีบางอย่างที่ช่วยเยียวยาทุกสิ่ง เราจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาอยู่กับสิ่ง ๆ นี้ และจะสุขให้ถึงขั้นสุดก็ต้องมีเพื่อนอยู่ด้วย
หากใครที่กำลังถูกเรายั่วให้ชวนเพื่อนไปล้อมวงกินชาบูกลางป่าล่ะก็ …นี่คือ 5 ที่เดินป่าที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯและเหมาะแก่การตั้งวงชาบู
น้ำตกผาแตก
น้ำตกผาแตก เป็นเส้นทาง เดินป่าใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้ระยะเวลาในการอยู่ป่าเพียง 2 วัน 1 คืน ที่อยู่ในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี เราใช้เวลา6-7 ชั่วโมงในการขับรถจากกรุงเทพฯไป
ไม่ทึก ไม่ทุย ไม่ทาก คือนิยามของเส้นทางเดินป่าน้ำตกผาแตก เป็นเส้นทางเดินป่าที่ง่าย 90% ของเทรลเดินป่าเป็นป่าไผ่ที่เป็นทางราบ ใช้เวลาในการเดินจากจุดเริ่มต้นไปถึงแค้มป์ราว 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น จึงมั่นใจได้ว่าทุกคนไปได้
เพราะอะไรที่นี่ถึงเหมาะแก่การตั้งวงกินชาบูกลางป่า
บริเวณพื้นที่ตั้งแค้มป์ของน้ำตกผาแตก อยู่ใกล้ริมลำธาร ส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ อาจจะมีรากไม้บ้าง สามารถกางเต็นท์ หรือนอนเปลก็ได้ ไม่ค่อยมีลมแรง จึงเหมาะแก่การก่อไฟตั้งวงชาบูเป็นที่สุด แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ เหล่าฝูงผึ้งตัวน้อย ๆ ที่ออกมาทำหน้าที่ขยายพันธุ์พืชในช่วงกลางวัน
สนใจไปน้ำตกผาแตกกับเรา >>> https://tour.trekkingthai.com/product/น้ำตกผาแตก/
สันหนอกวัว
สันหนอกวัว เป็นเส้นทางเดินป่า 2 วัน 1 คืน ที่อยู่ในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี เช่นเดียวกับเส้นทางเดินป่าน้ำตกผาแตก เราใช้เวลา6-7 ชั่วโมงในการขับรถจากกรุงเทพฯไป
เราให้ฉายา “สันหนอกวัว” ว่า เป็นหลังคาดาวแห่งเมืองกาญจน์ ด้วยเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี (นับเฉพาะที่ทางอุทยานเปิดให้เข้าพื้นที่) มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1767 เมตร เป็นเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายมือใหม่สักเล็กน้อย เราจะเดินไปยังจุดตั้งแค้มป์ ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงจาก 50% เป็นทางชัน 30% เป็นทางราบและอีก 20% เป็นทางดิ่งลง จากระยะทางทั้งหมดราว 8 กิโลเมตร มีจุดทางชันที่ต้องออกแรงเยอะๆ อยู่ 2-3 จุด เนินที่ขึ้นชื่อได้แก่ “เนินหมาถอย”
เพราะอะไรที่นี่ถึงเหมาะแก่การตั้งวงกินชาบูกลางป่า
บริเวณพื้นที่ตั้งแค้มป์ของสันหนอกวัวมีทั้งหมด 3 จุด ได้แก่
- ลานกว้างชั้นที่ 1 เป็นลานตั้งแค้มป์ที่ราบที่สุดจากทั้ง 3 ลาน และมีลมแรงน้อยที่สุด จึงเหมาะแก่การตั้งวงชาบูมากที่สุด
- ลานเล็กชั้นที่ 2 มีบริเวณพื้นที่ค่อนข้างแคบ จะกางเต็นท์ หรือเปลมุ้งก็ได้ แต่จะกางเต็นท์ได้แบบสบาย ๆ ไม่เกิน 7-8 หลัง แต่บริเวณนี้ลมค่อนข้างแรง และสิ่งที่มาพร้อมกับลมคือฝุ่นทราย จึงไม่เหมาะแก่การตั้งวงชาบู แต่หากเลือกไม่ได้ แนะนำติดแผ่นบังลมมาด้วยจะช่วยได้เยอะมากเลยจ้า
- ลานแอ่งกระทะชั้นที่ 3 มีบริเวณพื้นที่ตั้งแค้มป์ค่อนข้างกว้าง แต่มีพื้นที่ราบราว 40% ของพื้นที่เท่านั้น และที่สำคัญเป็นหน้าด่านของแรงลม ลมจึงแรงมาก แนะนำติดแผ่นบังลมมาด้วยจะช่วยได้เยอะมากเลยจ้า
สนใจไปสันหนอกวัวกับเรา >>> https://tour.trekkingthai.com/product/สันหนอกวัว/
ดอยหลวงตาก
ดอยหลวงตาก เป็น 1 ในเส้นทาง เดินป่าใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยม ด้วยวิวสันเขาที่วางตัวสลับซับซ้อนได้อย่างสวยงาม และมีวิวไฮไลต์ที่ เนินโล้นหลวง เนินทุ่งหญ้าสีเขียวสวยที่มีหมากจางๆ ปกคลุมในยามเช้า มีระดับความสูงราว 1175 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมีระยะการขับรถจากกรุงเทพฯเพียง 5-7 ชั่วโมงเท่านั้น
ใครที่วางแผนจะได้เดินป่าที่นี่ควรเตรียมตัวให้พร้อมสักนิด เพราะถึงแม้เส้นทางเดินป่าที่นี่จะใช้เวลาเพียง 2 วัน 1 คืน แต่เราต้องเดินเท้าถึง 11 กิโลเมตร จากจุดเริ่มเดินไปจนถึงจุดตั้งแค้มป์ ซึ่งในช่วงระหว่างทางนี้ จะมีช่วงสั้น ๆ ที่เราต้องเร่งฝีเท้าเดินฝ่าดงทากกันราว 15 นาที
เพราะอะไรที่นี่ถึงเหมาะแก่การตั้งวงกินชาบูกลางป่า
บริเวณพื้นที่ตั้งแค้มป์ของดอยหลวงตากอาจจะแคบและลมแรงเสียหน่อย แต่ก็ยังพอมีมุมราบๆ ให้หลบแรงลม ตั้งวงล้อมกินชาบูท่ามกลางอากาศหนาว ๆได้กำลัง แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรพกแผ่นบังลมได้จ้า
สนใจไปเดินป่าดอยหลวงตากกับเรา
https://tour.trekkingthai.com/product/ดอยหลวงตาก/
ดอยมณฑา
ดอยมณฑา เป็นเส้นทางเดินป่า 2 วัน 1 คืน ที่อยู่ในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จ.ตาก เราใช้เวลา6-7 ชั่วโมงในการขับรถจากกรุงเทพฯ เป็นอีก 1 เส้นทาง เดินป่าใกล้กรุงเทพฯ ที่วิวสันเขาสวยมากๆเลยล่ะ
แต่สำหรับมือใหม่เส้นทางเดินป่าดอยมณฑาอาจจะดูหนักไปเสียหน่อย แต่หากเตรียมความพร้อมร่างกายมาดี ก็อย่าได้หวั่นจ้า ในช่วงแรกของเส้นทางเดินป่า เราต้องเดินลุยน้ำเข้าไปเรื่อย ๆ ก่อนถึงทางแยกที่จะเดินขึ้นสันเขา จากนั้นก็ได้ช่วงเวลาของการท้าความดัน(สูง)กันละ เรียกได้ว่า 60 % ของเส้นทางเดินป่าใกล้กรุงเทพฯ เส้นนี้เป็นทางชัน ดอยแห่งนี้มีจุดวัดใจไต่สันเขา – คล้าย ๆ กับเขาช้างเผือก แต่ระยะความกว้างของสันเขากว้างกว่า แต่ความยาวนั้น ยาวกว่ามากกก และชันยาวด้วย ให้ความรู้สึกท้าทายพลังกายใจกำลังดี
เพราะอะไรที่นี่ถึงเหมาะแก่การตั้งวงกินชาบูกลางป่า
บริเวณพื้นที่ตั้งแค้มป์ของดอยมณฑา 80% เป็นพื้นที่ราบเรียบและกว้าง เปิดโล่ง 180 องศา เราจึงเห็นดาวได้ชัดเจนและเต็มท้องฟ้าไปหมด ลมไม่แรงมากนัก จึงเหมาะแก่การตั้งวง
ชาบูดูดาวมากที่สุด
สนใจไปเดินป่าดอยมณฑากับเรา >>>https://tour.trekkingthai.com/product/ดอยมณฑา/
ดอยทู่
ดอยทู่ เป็น เส้นทางเดินป่าใกล้กรุงเทพฯ ที่มีระยะเดินเท้าไม่ไกลมาก เป็นภูเขาที่มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 1384 เมตร ภูเขาแห่งนี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าลีซอ ในเขตอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ระยะเดินเท้าใช้เวลาในการเดินราว 3 – 4 ชั่วโมงก็จะถึงจุดตั้งแค้มป์
ตลอดระยะการเดินเท้าขึ้นไป ดอยทู่ เราจะเห็นสังคมของ “ป่า” ที่มีความหลากหลายมากตั้งแต่สังคมป่าไผ่ สังคมป่าเต็งรัง ไปจนถึงสังคมป่าต้นกล้วย เมื่อเดินผ่านพ้นแนวขอบป่าก็จะเจอกับแนวสันเขาสีเขียวตัดกับหมอกจางๆ พาชวนให้ฝันถึงเนินทุ่งหญ้าสีเขียวสดใส เส้นทาง
เพราะอะไรที่นี่ถึงเหมาะแก่การตั้งวงกินชาบูกลางป่า
พื้นที่ตั้งแค้มป์ของดอยทู่ ค่อนข้างเป็นพื้นที่ราบ อาจจะไม่กว้างมากนัก แต่ก็สะดวกเพียงพอต่อการตั้งวงชาบูสุมหัวกินกับเพื่อน ๆ ท่ามกลางบรรยากาศหนาว ๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คงไม่พ้นเรื่องลมอีกเช่นกัน
สนใจเดินป่าดอยทู่กับเรา >>> https://tour.trekkingthai.com/product/ดอยทู่/