8 เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวขุนตาล ออกเดินทางเก็บเกี่ยวธรรมชาติให้เต็มที่

         ช่วงปลายปีแบบนี้ จะมีอะไรดีกว่าการมองหาหมุดหมายที่เที่ยวธรรมชาติสักที่ ไว้ตักตวงความสุขที่ได้จากการเอาร่างกายไปสัมผัสแสงแดด สายลม และสายหมอก แต่สำหรับใครที่คิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดี นาทีนี้เราขอแนะนำ “อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล” เที่ยวง่าย เดินทางสะดวก และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีรถก็ไปเที่ยวได้สบายมาก ๆ แต่การจะไปเที่ยวที่นี่ ถ้ามีการเตรียมตัวที่ดี รับรองว่าเที่ยวสนุกและสะใจอย่าบอกใคร

         ขุนตาล หรือ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

         ว่ากันว่ามาเที่ยวขุนตาลทั้งที การนั่งรถไฟลอดอุโมงค์ขุนตาน ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์เด็ดสำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ ด้วยชื่อเสียงและประวัติความเป็นมาอันยาวนาน

         อุโมงค์ขุนตาน ถือเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 1.3 กิโลเมตร ยาวเป็นอันดับ 1 จากจำนวน 7 อุโมงค์รถไฟในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน (ณ วันที่ 11 กันยายน 2563) สร้างโดยการรถไฟหลวงแห่งกรุงสยาม ที่มีพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นผู้บัญชาการ และมีนายช่างชาวเยอรมัน (เอมิล ไอเซนโฮเฟอร์) เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา…อุโมงค์ขุนตานได้ผ่านช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติอย่างลงตัว เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวแทบจะทุกคนต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันถ้วนหน้า

          สำหรับการเดินทางไปเที่ยวขุนตาล สามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่สำหรับใครที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็เที่ยวขุนตาลได้สบาย โดยวิธีคลาสสิกที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยม นั่นคือ การเดินทางโดยรถไฟตามเส้นทางรถไฟสายเหนือ หลังจากนั้นมาลงที่สถานีขุนตาน

         หรือถ้าใครอยากจะย่นย่อเวลา สามารถโดยสารเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ แล้วหลังจากนั้นเดินทางมายังสถานีรถไฟเชียงใหม่มาลงที่สถานีขุนตานได้ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง) หลังจากนั้นจึงเดินเท้าประมาณ 1.3 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลแล้ว

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบตารางเวลาเดินรถไฟได้ที่ เว็บไซต์ railway.co.th

          ภายในขุนตาลเรียกได้ว่ามีกิจกรรมหลากหลายไว้เอาใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

• แคมปิ้ง

  ถือเป็นกิจกรรมไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด นาน ๆ ทีได้โอกาสเปลี่ยนสถานที่นอนดูบ้าง ขนเสบียง ขนมนมเนยไปให้เต็มที่ ตกดึกค่อยนั่งทำอาหารจากฝีมือตัวเองกิน พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติแบบเต็ม ๆ แต่อย่าลืมรับผิดชอบด้วยการเก็บขยะของตัวเองกันด้วยนะ

• จุดถ่ายรูป

  เอาเข้าจริง ๆ ภายในขุนตาล นอกเหนือจากธรรมชาติสวย ๆ ที่มีให้คุณเก็บภาพแทบทุกจุดแล้ว ที่นี่ยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ อยู่เพียบ ตั้งแต่บริเวณด้านหน้า จะมีหอถ่ายรูป ที่เมื่อมองไปจะเจอกับเส้นแบ่งเขตจังหวัดลำปาง-ลำพูนบริเวณถนน มีสะพานขาว และอุโมงค์รถไฟขุนตาน (แบบจำลอง) เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเล่นอีกด้วย

• เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ย.1-ย.4

ถือเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับการมาเที่ยวขุนตาล โดยระยะทางตั้งแต่จุดเริ่มต้น ย.1-ย.4 เป็นระยะทางทั้งสิ้น 5 กิโลเมตร โดยแต่ละจุดทางเดินจะมีการถางทางเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเดินสะดวก ไม่ลำบาก โดยเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นการเดินที่ต้องค่อย ๆ ไต่ระดับความสูงไปเรื่อย ๆ จะมีช่วง “เนินวัดใจ” ที่บอกเลยว่าวัดใจของจริง เพราะทางค่อนข้างชัน ต้องอาศัยพลังในการโน้มน้าวตัวเองให้เดินต้านแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อขึ้นไปยังยอดขุนตาลที่จุด ย.4 ที่ระดับความสูง 1,375 เมตร ให้ได้ เมื่อขึ้นไปด้านบนบอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาที่ดั้นด้นลำบากมาแน่นอน

         นอกเหนือจากเส้นทางธรรมชาติ ย.1-ย.4 แล้ว หากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ลองมาเดินทางเส้น “น้ำตกตาดเหมย” ดู โดยจุดนี้จะอยู่ระหว่างเส้นทาง ย.2 และ ย.3 แต่แนะนำว่าเส้นทางนี้อาจไม่เหมาะสำหรับช่วงหน้าฝน ด้วยเพราะค่อนข้างไกลและชัน อาจมีบางช่วงถ้าเดินไม่ระวังอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ รวมถึงพื้นที่สำหรับเดินค่อนข้างแคบ มองไปด้านขวาคือเหว ด้านซ้ายคือภูเขา ดังนั้นใครเลือกเดินเส้นทางนี้ จำเป็นต้องประคองสติให้อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดเวลา เส้นทางนี้ค่อนข้างเหนื่อย แต่ใครที่ชอบเดินบอกเลยว่า…สะใจ

         ภายในอุทยานมีทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เช่า

• บ้านพักอุทยาน

  มีให้เลือกหลากหลาย สะดวกสบาย มีห้องน้ำ เครื่องนอน พัดลม และเครื่องทำน้ำอุ่น โดยบ้านพักแต่ละหลังจะกระจายตัวตามบริเวณต่าง ๆ ในอุทยาน แต่มีข้อแนะนำว่า…ถ้าไม่อยากเสียเวลาเดินเท้าจากที่พักไปยังเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ย.1-ย.4 ให้จองบ้านพักโซนที่ 4 ไปจะดีที่สุด

 

• ลานกางเต็นท์

         ในอุทยานมีลานกางเต็นท์/ลานพักแรม ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยจะอยู่ที่ ลานชมดาว, ลานพักแรม 1 และ 2 และลานสน ย.2 (ใครที่ขาดเหลืออุปกรณ์กางเต็นท์ใด ๆ สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานได้เลย)

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปจองที่พักตลอดจนอุปกรณ์เช่าเต็นท์ต่าง ๆ ได้ที่ เว็บไซต์ nps.dnp.go.th

          สำหรับใครที่มาเที่ยวขุนตาลโดยที่ไม่ได้เตรียมเสบียงใด ๆ มาเลยสักอย่าง ไม่ต้องห่วง…เพราะที่นี่มีร้านค้าสวัสดิการ ขายข้าว ขายขนม เครื่องดื่ม และของใช้จำเป็นต่าง ๆ แต่ร้านจะปิดเร็วอยู่สักหน่อย ประมาณ 18.00 น. ก็จะปิดแล้ว โดยร้านจะอยู่บริเวณใกล้ ๆ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แต่ถ้าใครไม่อยากเดินไกล งานนี้แนะนำว่าให้เตรียมอาหารไปให้พร้อมก็จะดีมากเช่นกัน

• อย่าลืมพกยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นติดตัวไปด้วย ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด รวมถึงสเปรย์กันแมลงต่าง ๆ เพราะที่นี่ยุงและแมลงค่อนข้างเยอะ
• อย่าลืมพกน้ำติดตัวไปด้วยเด็ดขาด เพราะระหว่างเส้นทาง ย.1-ย.4 ไม่มีร้านค้าใด ๆ ทั้งสิ้น เตรียมน้ำไปให้เพียงพอ เอาไว้ดื่มแก้เหนื่อยระหว่างทาง รวมถึงไฟฉายติดตัวไปด้วยก็จะดีมาก
• รองเท้าถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็น ทางที่ดีควรเป็นรองเท้าผ้าใบ หรือถ้าเป็นรองเท้าสำหรับเดินป่าได้เลยยิ่งดี เพื่อความคล่องตัว ถ้าเป็นรองเท้าประเภทอื่น ๆ อาจจะไม่เซฟเท่า
• อีกหนึ่งตัวช่วยที่ไม่ต้องมีก็ได้ หรือมีก็ดี น่าจะเป็นไม้เท้าเดินป่า ซึ่งถ้ามีไว้ติดตัวก็เป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงได้ดีไม่น้อย หรือถ้าไม่มีก็คอย ๆ มองหาไม้ระหว่างทางเอาก็ได้
• ไม่ต้องห่วงเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ เพราะไม่ว่าจะเครือข่ายไหน ก็มีสัญญาณเต็มเหนี่ยว

         หากนักท่องเที่ยวคนไหนมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทรศัพท์สอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง โทรศัพท์ 081 032 6341 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล – Doi Khun Tan National Park

         เราเชื่อว่า…ขุนตาล น่าจะเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวอุทยานที่ตรงใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติแน่ ๆ เพียงเวลาไม่กี่วัน ลองใครได้มาสัมผัสที่นี่แล้ว เป็นต้องตกหลุมรักในความเรียบง่ายหากแต่แฝงไว้ซึ่งเสน่ห์ ซึ่งถ้าใครไม่ได้เดินทางมา ก็คงไม่มีวันรู้ รู้อย่างนี้แล้ว เตรียมหาวันหยุดล่วงหน้า แล้วเตรียมตัวมาตกหลุมรัก “ขุนตาล” กัน ^ ^

 หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล – Doi Khun Tan National Park