9 เทคนิคเดินป่า ยังไงไม่ให้ป่าพัง แบบ TrekkingThai

9 เทคนิคเดินป่า ยังไงไม่ให้ป่าพัง  ปัจจุบันนี้กระแสนิยมการเดินป่า หรือท่องเที่ยวธรรมชาติกำลังมาแรงเป็นอย่างมาก   ด้วยเพราะธรรมชาตินั้นมีพลังอย่างมากที่จะช่วยบำบัดความเครียดและเพิ่มพลังให้กับเหล่ามนุษย์ทำงานอย่างพวกเราอย่างมากมาย   แต่ถึงอย่างนั้นผลพวงที่ตามมาพร้อมกับการไปเยือนธรรมชาติของมนุษย์คือ  กองขยะมหึมา  ทั้งขวดเหล้า  ขวดเบียร์  ถุงพลาสติก  ทิชชู่เปียก   ฯลฯ  เชื่อหรือไม่ว่าเมื่อราวปี 2015 กระแสนิยมไปเดินป่าที่น้ำตกปิตุ๊โกรหลั่งไหลแบบที่คนในพื้นที่เองก็เตรียมตั้งรับไม่ทัน   ทำให้หลังจบสัปดาห์แรกของการเปิดป่า ปรากฎว่ามีกองขยะเกือบตันเลยทีเดียว O_o

จากผลพวงที่เกิดขึ้นนี้  เราจึงอยากแบ่งปัน เทคนิคเดินป่า ไม่ให้ป่าพัง ในแบบฉบับที่ทีมงาน TKT ใช้ในการจัดการขยะที่เรานำเข้าไปใช้ในป่า โดยหวังว่าจะเป็นแนวทางให้นักท่องไพรทุกคนได้มีแนวทางการจัดการขยะที่นำเข้าไปในป่าได้ดียิ่งขึ้น

9 เทคนิคเดินป่า ด้วยใจรักษ์ แบบง่าย ๆ :

1  เทคนิคเดินป่า ลำดับที่ 1 ยืดอก พกถุงขยะ   

ทุกครั้งที่ออกจากป่า ช่วยกันนำขยะออกกันมาด้วยนะจ๊ะ – ขอขอบคุณรูปภาพจากสมาชิกทริปภูสอยดาววันที่ 3-5 สิงหาคม 61

ทุกครั้งที่ไปเข้าป่า หรือไปเที่ยวกางเต็นท์ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ให้พกถุงขยะเล็ก ๆ ติดตัวไปด้วยทุกครั้ง  เพื่อสะดวกในการนำขยะส่วนตัว เช่น กระดาษทิชชู่เปียกที่ใช้เช็ดตัวเพื่อทำความสะอาด  หรือเวลาฉี่  นำลงกลับมาทิ้งด้านล่าง  เพราะหากเราทิ้งกระดาษทิชชู่เปียกเกลื่อนกลาดตามพุ่มไม้  ต่อมามีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มก็พากันมาทิ้งบ้าง  สุดท้ายบริเวณลานพื้นดินก็จะกลายเป็นทุ่งกระดาษทิชชู่ขาวโพลน  ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วที่ดอยหลวงเชียงดาว

2   พกกล่องข้าว ช้อน ส้อม และขวดน้ำติดตัว เป็น เทคนิคเดินป่า ที่ช่วยลดการเกิดขยะด้วยนะ

ขยะที่พบโดยส่วนมากของการไปตั้งแค้มป์ในป่า  ส่วนใหญ่จะพ้นภาชนะที่บรรจุอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกผลิตมาจากโฟม  พลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขวดน้ำดื่ม  ที่มักจะถูกพบทิ้งเรี่ยราด จะดีกว่าไหม?  หากเราทุกคนต่างก็พกกล่องข้าว  และขวดน้ำติดตัวไปเอง   เพื่อลดปริมาณการใช้โฟม และขวดพลาสติก  ถึงแม้ว่าจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับเราก็ตาม  แต่ก็ดีกว่าทิ้งขวดน้ำและจานพลาสติกไว้กลางป่า  การใช้กล่องข้าวและขวดน้ำส่วนตัวนอกจากจะไม่ต้องทิ้งเป็นขยะให้ป่าพังแล้ว   ยังเป็นการช่วยลดการใช้โฟมและพลาสติกทางอ้อมอีกด้วย

3   เน้นใช้ทิชชู่แบบธรรมดามากกว่าทิชชู่เปียก

รู้หรือไม่ว่าขยะส่วนใหญ่ที่อยู่ในป่าจนกลายเป็นปัญหาใหญ่นั้น คือ ทิชชู่เปียก !!!  ทำไมทิชชู่เปียกถึงได้กลายเป็นผู้ร้ายในป่าใหญ่  นั่นเพราะส่วนใหญ่เราจะนิยมพกทิชชู่เปียกมาเช็ดทำความสะอาดร่างกาย  และนำมาใช้ทำความสะอาดหลังเข้าห้องน้ำ  เมื่อทำธุระเสร็จก็ทิ้งตรงนั้นเลย!!! ด้วยเพราะเข้าใจว่าเดี๋ยวทิชชู่เปียกก็ย่อยสลาย แต่นั่นผิด O_o

เพราะทิชชู่เปียกมีส่วนผสมของเส้นใยพลาสติกที่ยากต่อการย่อยสลาย  ทำให้เมื่อเราทิ้งทิชชู่เปียกไปผ่านไปหลายเดือน ก็ยังคงไม่ย่อยสลาย กลายเป็นทัศนอุจาดตาของผู้ไปเยือนทีหลัง  และยังอาจเป็นสาเหตุให้สัตว์ในป่าตายไปโดยไม่ตั้งใจ  ด้วยเหตุเพราะเข้าใจว่าเป็นอาหาร !!! ซึ่งแตกต่างกับทิชชู่ธรรมดาที่ย่อยสลายง่าย  และควรจะทำการฝังกลับทุกครั้งหลังจากที่ทำธุระหนักภายในป่า เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและไม่ให้เป็นทัศนอุจาดตาของนักท่องเที่ยวคนอื่น   (อ่านบทความ เข้าห้องน้ำในป่า อย่างไรให้ปลอดภัย)

4   เดินป่า แล้ว ต้องรู้จักแยกประเภทขยะนะ

การแยกประเภทขยะเปียก   ขยะแห้ง ทุกครั้งก่อนทิ้ง  จะทำให้เราง่ายต่อการจัดการขยะ  โดยแต่ละประเภทจัดการดังนี้

  • ขยะเปียก  เราจะนำไปจัดการโดยการขุดหลุมแล้วฝังกลบ
  • ขยะแห้ง   เช่น  ถุงพลาสติก  ขวดน้ำ   กระป๋องแก๊ส  กระป๋องน้ำดื่ม  ฯลฯ  ทั้งหมดนี้เราจะขนกลับลงไปทิ้งที่ถังขยะนอกผืนป่า  แต่กระป๋องแก๊สควรจะนำมีดมาเจาะกระป๋องให้เป็นรูก่อนทิ้งลงถุงขยะ   เพื่อที่ว่าเมื่อนำไปจัดการด้านนอกผืนป่า กระป๋องแก๊สจะไม่ระเบิดใส่ผู้ที่ทำหน้าที่จัดการขยะ

5   เดินป่า นำอะไรเข้าไป  นำกลับออกมาให้หมด

หลักการง่าย ๆ ที่แทบไม่ต้องใช้ตรรกะอะไรเลย   หากเรานำอะไรเข้าไปในป่า  เราก็ต้องนำสิ่งของเหล่านั้นออกมามาจากป่า เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่  วิธีการง่าย ๆ ในการแพคแบ่งถุงขยะกระจายช่วยกันขนขยะออกจากป่า  คือ

  • แบ่งขยะใส่ถุงขยะให้กับสมาชิกในกลุ่มเดินป่า ในปริมาณที่เท่าๆกัน
  • กดไล่อากาศในถุงขยะออกให้หมด   มัดปิดปากถุงให้สนิท
  • นำถุงขยะอีก 1 ใบ มาซ้อนอีก 1 ชั้น  เพื่อป้องกันถุงขยะฉีกขาดในช่วงระหว่างเดินป่า
  • นำถุงขยะมามัดติดกับด้านล่างของเป้

6   แพ้วถางพื้นที่กางเต็นท์ให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้

แน่ละว่าการไปตั้งแค้มป์ภายในป่า  ย่อมต้องเจอกับปัญหาพื้นที่กางเต็นท์ไม่พอกับสมาชิกในกลุ่มเดินป่า  อาจด้วยเพราะพื้นที่กางเต็นท์เดิมมีน้อย  หรือพื้นที่ที่มีก็ลาดเอียงและขรุขระเกินกว่าจะนอนได้   ซึ่งโดยส่วนใหญ่ เราก็มักจะแก้ปัญหาโดยการเอามีดมาแพ้วถางเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น  ซึ่งวิธีนี้มีข้อเสียคือ เราอาจถางเอาพรรณไม้ที่สำคัญ  หรือหายากออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

การกางเต็นท์นอนช่วงหน้าฝน

แต่สำหรับ เทคนิคเดินป่า ของเราคือควรใช้วิธีการนำเต็นท์มากางปูทับไปบนหญ้าและพืชเล็ก ๆ เหล่านั้นไปเลยจะดีกว่า   เพราะเมื่อเราจากไปต้นไม้เหล่านั้นจะค่อย ๆ ปรับตัวตั้งตรงกลับมาใหม่อีกครั้ง  ซึ่งดีกว่าการถางทิ้งอย่างแน่นอน

7   ไม่ก่อไฟในพื้นที่ที่ห้ามก่อ

เคยสงสัยไหม  เพราะอะไรบางพื้นที่จึงมีกฎว่า “ห้ามก่อไฟ”   นั่นก็เพราะว่าบริเวณเหล่านั้นมีพืชที่อ่อนไหวต่อควันไฟ  เช่น  มอส  ไลเคน  เฟิร์น   ซึ่งบางชนิดอาจจะเป็นชนิดที่หายาก  และในชนิดที่หายากเหล่านั้น  อาจจะเป็นชนิดที่สามารถนำมาทำยากรักษาโรคใหักับบรรดามนุษย์อย่างเรา ๆ ก็เป็นได้  ดังนั้นเราจึงไม่ควรฝ่าฝืนกฎ ด้วยเพียงเพราะต้องการอยากก่อไฟแก้หนาว  เพราะเราไม่รู้เลยว่า  เรากำลังทำร้ายใครอยู่บ้าง

8   เลี่ยงการใช้สารเคมีในน้ำ/ลำธาร 

ควรเลี่ยงการใช้สารเคมี เช่น  แชมพู  สบู่  หรือน้ำยาล้างจาน  ลงในน้ำ หรือในลำธาร  เพราะสารเคมีเหล่านี้อาจทำให้สัตว์น้ำ  หรือพืชน้ำได้รับอันตรายได้  คำถามที่หลายคนชอบถามคือ  แล้วจะอาบน้ำ  หรือ ล้างอุปกรณ์ครัว หรือจานชามได้อย่างไร?

  • ว่าด้วยเรื่องของการอาบน้ำ   :  เราสามารถแช่น้ำน้ำเปล่า ๆ แล้วขัดถูร่างกายตามใจชอบจะดีที่สุด  อ้อ  ก่อนจะอาบน้ำควรอาบน้ำที่ปลายน้ำทุกครั้ง  ไม่ควรอาบน้ำที่ต้นน้ำ   เพราะบริเวณต้นน้ำเรามักจะนำน้ำมาใช้ดื่ม และทำกับข้าว
  • ว่าด้วยเรื่องการล้างอุปกรณ์ครัว  :   เริ่มต้นให้ใช้ทิชชู่เช็ดทำความสะอาดคราบอาหารและคราบมันก่อน   จากนั้นใช้น้ำล้างทำความสะอาด และใช้ก้อนกรวดเล็ก ๆ ริมน้ำหรือใบไม้เป็นวัสดุในการขัดถูเอาคราบสิ่งสกปรกออก

9    ไปเดินป่า แล้วก็อย่าเข้าไปเหยียบย่ำต้นไม้ /ดอกไม้

ดงดอกไม้ป่านั้นมีสีสันสวยงาม  บางชนิดนั้นเป็นชนิดที่เฉพาะถิ่นมาก ๆ ยิ่งหายาก  ยิ่งเป็นที่ต้องการของเหล่าช่างภาพสมัครเล่นทั้งหลาย  ที่ต่างพากันไปถ่ายรูปไม่ลืมหูลืมตา   จนอาจเป็นเหตุให้เกิดการเหยียบย่ำดอกไม้ หรือต้นไม้โดยไม่ได้ตั้งใจ   เพื่อรักษาโอกาสให้กับดอกไม้ป่าแสนสวยได้ชูช่อดอกตามอายุขัยของมัน   เราควรจะมีระยะห่่างในการถ่ายภาพดอกไม้ หรือต้นไม้นั้นเสียหน่อย  เราและนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ก็จะยังคงได้พบเห็นดอกไม้ป่าเหล่านี้ไปอีกนานเท่านาน

ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ ?  กับ 9 เทคนิคการเดินป่า ที่จะไม่ทำให้ป่าพัง   เราเชื่อว่าผืนป่ามอบความสุขให้ทุกคนที่ไปเยือนอย่างเต็มที่  และเราทุกคนที่ไปเยือนก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผืนป่ายังคงสวย และสมบูรณ์ในแบบที่เขาเคยเป็นอยู่ได้   ขอเพียงแค่เราไม่มักง่าย  หวังแต่ไปเพียงเติมความสุขแค่ครั้งเดียวแล้วก็จากไป

เรื่องแนะนำ